วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ขึ้นคานสูง!!

ผู้หญิงมีเปอร์เซ็นต์ขึ้นคานสูง!!

    แม้ว่าเราจะต่อสู้ทุกวิถีทางทั้ง ไหว้ขอคู่ ดูทินเดอร์ ออกไปสำรวจตลาด ฯลฯก็ยังไม่มีวี่แววและยังโดนแซวอยู่ทุกวัน จริงแล้วๆ มันไม่ได้ผิดที่คุณ ไม่ได้ผิดที่เขา แต่มันมีความจริงบางอย่างที่ทำให้คุณต้องอยู่เป็นโสดก็เป็นได้…


ความจริงที่ 1
ผู้หญิงมีเท่าภูเขา ผู้ชายมีเท่าเส้นผม
ถ้าพูดในภาษาเศรษฐศาสตร์ พรหมลิขิตอาจเป็นสินค้าที่ขาดตลาด เพราะหากพรหมลิขิตเกิดจากชาย 1 ต่อ หญิง 1 มาดูกันหน่อยซิว่าสัดส่วนประชากร ชายต่อหญิง ที่แท้จริงแล้ว …มีเท่าไหร่กัน
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
มหาวิทยาลัยมหิดล เผยข้อมูลประชากรและสัดส่วนระหว่างเพศชายและเพศหญิง ปี 2560 ทั้งประเทศมีประชากรทั้งสิ้น 66,188,503 คน แบ่งเป็นชาย 32,454,906 คน หญิง 33,780,597 คน ส่วนต่างหญิงมากกว่าชาย 1,325,691 คน จังหวัดที่มีประชากรมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร ทีทั้งสิ้น 5,692,284 คน แบ่งเป็นชาย 2,695,519 คน หญิง 2,996,765 คน หญิงมากกว่าชาย ประมาณ 301,246 คน
สัดส่วนของเพศชายและเพศหญิงโดยจำแนกตามช่วงอายุ
0-14 ปี : 19.2% (ชาย 6,620,873 / หญิง 6,313,188)
15-24 ปี : 15.1% (ชาย 5,181,468 / หญิง 4,975,083)
25-54 ปี : 45.6% (ชาย 15,192,334 / หญิง 15,569,761)
55-64 ปี : 10.4% (ชาย 3,345,493 / หญิง 3,661,867)
65 ปีและมากกว่า: 9.8% (ชาย 2,971,426 / หญิง 3,616,627)
จากการจำแนกตามช่วงอายุ จะพบว่า ช่วงอายุตั้งแต่ 25 ขึ้นไป จะมีสัดส่วนเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2563 ส่วนต่างที่ผู้หญิงจะมีมากกว่าผู้ชายจะเพิ่มถึง 1.5 ล้านคน โดยเฉพาะผู้หญิงตัวคนเดียว จะมีมาก
ขึ้นประมาณ 5.6 ล้านคน ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้รวมถึง ผู้หญิงที่เป็นหม้าย และผ่านการหย่าร้าง สาเหตุก็คือ ผู้ชายมีแนวโน้มเสียชีวิตเร็วกว่า และมีแนวโน้มแต่งงานใหม่มากกว่าผู้หญิง จึงทำให้มีผู้ชายที่ผ่านการหย่าร้างและ
พ่อม่ายน้อยกว่าด้วย
ความจริงที่ 2
อายุมากยิ่งมีโอกาสโสดมาก
ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งมีโอกาสสูงขึ้น เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป อัตราส่วนของประชากรชายต่อหญิงจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% เนื่องจากโดยค่าเฉลี่ยแล้วผู้หญิงมักจะมีอายุที่ยืนยาวกว่าผู้ชาย
ความจริงที่ 3
ยิ่งสูง ยิ่งโสด
หลายงานวิจัยที่ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่าผู้หญิงที่มีการศึกษาสูง เงินเดือนสูง มักจะมีโอกาสครองตัวเป็นโสดสูงตามอย่างมีนัยสำคัญ
ความจริงที่ 4
ความโสดไม่ทำให้ใครตาย
การไม่มีใคร มันก็แค่เหงา แต่มันไม่ทำได้ทำให้ชีวิตเราไปต่อไม่ได้ รู้มั้ยว่าคนโสดยิ่งโสดยิ่งดูดี เพราะมีเวลาให้กับตัวเองดูแลสุขภาพได้เต็มที่ อยากทำอะไรก็ทำได้ ไม่มีปัญหาชีวิตคู่ให้ต้องขบคิด ถ้าจะมองในแง่ดี มันก็มี
4 สิ่งที่บอกว่าจริงๆ โสดก็ดีนะ
1. รักมักทำเสียสุขภาพ(จิต) : การมีความรักคือการมีทั้งสุขและ ‘ทุกข์’ ซึ่งหลายครั้ง หลายคน ก็มองข้ามสิ่งนี้ไป แน่นอนว่าการที่ใครสักคนหนึ่งเข้ามามอบความสุขให้เราได้ เขาก็มอบความทุกข์ในปริมาณที่เท่ากัน ให้กับเราได้ไม่ต่างกัน
2. รักมักมีความเสี่ยง : จากสถิติของกระทรวงมหาดไทยได้ให้ข้อมูลไว้ว่า จากคู่สมรสทั้งหมด 307,746 คู่ และมีคู่ที่หย่าจำนวน 118,539 คู่! หรือประมาณ 39% ของคู่ที่แต่งงานทั้งหมด นี่คือความเสี่ยงที่ทุกคู่ต้องรับไว้เท่าๆ กัน
3. รักมักกักขังเรา : ใครเล่าจะรู้ใจเราเท่าตัวเราเอง การมีสถานะโสดในอีกมุมหนึ่งคือสถานะที่ไม่มีพันธะหรือข้อผูกมัดใดๆ เพราะในสถานะนี้มีแค่เพียงเราเท่านั้น อยากกินอะไร อยากทำอะไร หรืออยากไปไหน ก็ไม่ต้องสนใจใครทำตามใจได้เลย Happy!~ …ซึ่งคุณจะสูญเสียทั้งหมดที่ว่ามาทันทีเมื่อคุณมี ‘แฟน’
4. รักมักทำร้าย : เคยคิดใช่ไหมว่าการมีใครบางคนเข้ามาอาจเปลี่ยนชีวิตสีเทาๆ ของเราให้สดใสกว่าที่ผ่านมา แต่เดี๋ยวก่อนความรักไม่ได้ทำให้โลกนี้สดใสและเต็มไปด้วยสีชมพูเท่านั้น หลายครั้งก็กลายเป็นโศกนาฎกรรมช้ำเลือดช้ำหนองได้เหมือนกัน
ก็นั่นล่ะ จริงๆ แล้วมีรักก็ดี แต่ไม่มีก็ดีไปอีกแบบ ความรักก็เหมือนหลายๆ อย่าง ที่มีทั้งร้ายและดี ผสมปนกันไป การมีใครบางคนให้ชุ่มช่ำหัวใจทำให้ชีวิตมีสีสัน แต่การอยู่ตัวคนเดียวก็มีอิสรภาพได้ทำทุกอย่างตามใจอยาก ใช้ชีวิตได้สุดแล้วแบบไม่ต้องกังวลอะไร สนุกกับชีวิตได้เต็มที่…


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น